7 กันยายน 2555

ประมวลภาพมหกรรมกีฬา กศน. เกมส์ ภูเก็ต 2555


จบลงแล้วสำหรับมหกรรมกีฬา กศน. เกมส์ ภูเก็ต 2555 ที่จัดแข่งตั้งแต่วันที่ 5-7 กันยายน 2555 ณ สนามกีฬา จังหวัดภูเก็ต โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อให้ผู้บริหาร ข้าราชการครู ข้าราชการพลเรือน และบุคลากรทางการศึกษา ครู กศน. พนักงานราชการ และนักศึกษา กศน. ได้ร่วมกิจกรรมกีฬา เปิดโอกาสให้แสดงออกถึงความคิดสร้างสรรค์ ความรู้ ความสามารถ ก่อให้เกิดความรัก ความสามัคคี มีน้ำใจนักกีฬา รู้แพ้ รู้ชนะ รู้อภัย และมีสุขภาพอนามัยที่ดี 
กีฬา กศน. เกมส์ จัดแข่งขันกีฬา กรีฑา รวม 7 ชนิดคือ
1. ฟุตบอล ชาย
2. เซปักตะกร้อ ชาย
3. แชร์บอล หญิง
4. วอลเลย์บอล ชาย-หญิง
5. เปตอง ชาย-หญิง
6. วิ่งแข่ง ชาย-หญิง
7. กอล์ฟ
และจัดทีมแข่งขันแบ่งตามภูมิภาคดังนี้
ภาคเหนือ สีม่วง
ภาคกลาง สีเขียว
ภาคใต้ สีฟ้า
ภาคตะวันออก สีแสด
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ สีน้ำเงิน
กทม./ส่วนกลาง สีชมพู
 
 ประมวลภาพมหกรรมกีฬา กศน. เกมส์ ภูเก็ต 2555
พิธีเปิด มหกรรมกีฬา กศน. เกมส์ ภูเก็ต
  
มัสคอตเป็นปลา
  
ขบวนพาเลซ กศน.ยะลา
  
พิธีเปิดเริ่มขึ้นแล้ว
อัศจรรย์ กศน. ภาคกลาง
อัศจรรย์ กศน. ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
 ลีดเดอร์
 กรีฑา วิ่งแข่ง
 
กีฬา เซปัคตะกร้อ
มหกรรมกีฬา กศน.เกมส์ได้จบลงแล้วในวันที่ 7 กันยายน 2555 อย่างสนุกสนาน ขอให้นักกีฬาและกองเชียร์ทุกท่านเดินทางกลับโดยสวัสดิภาพ

13 เมษายน 2555

เที่ยวสงกรานต์ภูเก็ต

ชมคลิปบรรยากาศการเล่นน้ำสงกรานต์ บนเกาะภูเก็ตกันครับ

วัดไชยธารารามหรือวัดฉลอง มีการจัดงานสงค์น้ำพระคู่เมือง โดยมีการแห่รูปเหมือนหลวงพ่อแช่มเพื่อให้ประชาชนในพื้นที่ตำบลฉลองและนักท่องเที่ยว ร่วมสงน้ำรูปเหมือนหลวงพ่อแช่มเพื่อเป็นศิริมงคลให้กับตัวเองและครอบครัว กันอย่างเนืองแน่น

การเล่นน้ำสงกรานต์ ที่บริเวณสวนสารณะสะพานหินซึ่งเป็นจุดหลักของการเล่นน้ำในตัวเมืองภูเก็ต มีประชาชนและนักท่องเที่ยวร่วมเล่นน้ำสงกรานต์เป็นจำนวนมาก ต่างนำรถกะบะบรรทุกถังน้ำขับตะเวณสาดน้ำทั่วเกาะภูเก็ต กันอย่างสนุกสนาน


พื้นที่หาดป่าตอง มีนักท่องเที่ยวทั้งชายไทยและชาวต่างชาติ ร่วมเล่นน้ำสงกรานต์กันอย่างคึกคัก และเพิ่มขึ้นเรื่อยๆจนถึงช่วงค่ำ 


สงกรานต์ปีนี้ที่จังหวัดภูเก็ตรณรงค์ ให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ เล่นน้ำกันอย่างสร้างสรรค์ตามแบบวิถีไทย 




ขอบคุณ คุณทิตยคุณ เกสโร ทีมข่าวสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย


11 กุมภาพันธ์ 2555

ท้าวเทพกระษัตรี ท้าวศรีสุนทร

  อนุสาวรีย์ ท้าวเทพกระษัตรี ท้าวศรีสุนทร เป็นที่เคารพสักการะของชาวภูเก็ต อนุสาวรีย์ของสองวีรสตรีของไทย ตั้งเด่นเป็นสง่า อยู่ในชุดโจงกระเบน สวมเสื้อแขนกระบอก ห่มตะเบง-มาน มือทั้งสองถือดาบ ซึ่งวีรกรรมและผลงานของท่านนับเป็นแบบอย่างของหญิงไทย ที่ได้รับการยกย่องเป็นวีรสตรีเมืองถลาง



  ท้าวเทพกระษัตรี ท้าวศรีสุนทร เป็นวีรสตรีไทยที่ป้องกันเมืองถลางให้พ้นจากข้าศึกได้ในสงครามเก้าทัพ สมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น สงครามเก้าทัพแบ่งออกเป็นการโจมตีกรุงรัตนโกสินทร์เป็นห้าทิศทาง

ทัพที่หนึ่ง แบ่งออกเพื่อตีหัวเมืองประเทศราชทางปักษ์ใต้ ตั้งแต่เมืองระนองจนถึงเมืองนครศรีธรรมราช
ทัพที่สอง เข้ามาทางหัวเมืองราชบุรี เพื่อที่จะรวบรวมกำลังพลกับกองทัพที่ตีหัวเมืองปักษ์ใต้ แล้วค่อยโจมตีกรุงรัตนโกสินทร์
ทัพที่สาม และสี่ เข้ามาทางด่านแม่ละเมาแม่สอด
ทัพที่ห้า ถึงเจ็ด เข้ามาทางหัวเมืองฝ่ายเหนือตั้งแต่เชียงแสน เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง ตีตั้งแต่หัวเมืองฝ่ายเหนือลงมา สมทบกับทัพที่สาม และสี่ ที่ยกเข้ามาทางด่านแม่ละเมาเพื่อเมืองตาก กำแพงเพชร พิษณุโลก นครสวรรค์
ทัพที่แปด และเก้า เป็นทัพหลวงพระเจ้าผดุงเป็นผู้คุมทัพ โดยมีกำลังพลมากที่สุดถึง ห้าหมื่นนาย ยกเข้ามาทางด่านพระเจดีย์สามองค์ เพื่อรอสมทบกับทัพเหนือและใต้ โดยมีจุดมุ่งหมายที่จะเข้ารบกับกรุงเทพมหานคร
  เวลานั้นทางฝ่ายไทยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช รวบรวมกำลังไพรพลได้เพียง เจ็ดหมื่นนาย มีกำลังน้อยกว่ากองทัพพระเจ้าพม่าถึงสองเท่า แต่ยังดีที่ทหารเหล่านี้เป็นทหารชั้นดีที่ผ่านการทำศึกสงครามมาแล้วอย่างโชกโชน ตั้งแต่การรบสมัยกรุงธนบุรี เรียกได้ว่าเป็นทหารเดนตายอย่างแท้จริง
แผนการรบของพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช คือจัดกองทัพออกเป็นสี่ทัพ ทัพที่หนี่งให้จัดไปรับกองทัพพม่าทางเหนือที่นครสวรรค์ ทัพที่สองยกไปรับพม่าที่ด่านพระเจดีย์สามองค์ ทัพนี้เป็นทัพใหญ่ มีสมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาสุรสิงหนาทเป็นแม่ทัพ คอยรับทัพหลวงของพระเจ้าผดุง ที่เข้ามาทางด่านพระเจดีสามองค์ ทัพที่สามยกไปรับทัพพม่าที่มาจากทางใต้ที่เมืองราชบุรี ทัพที่สี่เป็นทัพหลวงโดยมีพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช เป็นผุ้คุมทัพคอยเป็นกำลังหนุน เมื่อทัพไหนเพลี่ยงพล้ำก็จะคอยเป็นกำลังหนุน
  เมื่อเวลาศึกสงครามมาถึง สมเด็จพระอนุชาธิราช พระบวรราชเจ้ามหาสุรสิงหนาท ได้กองยกทัพไปที่หัวเมืองราชบุรี ตั้งรับไม่ให้กองทัพพม่ารวบรวมกำลังพลกันได้ นอกจากนี้ยังจัดกำลังไปกำลังการลำเลียงเสบียงของพม่า เพื่อให้กองทัพขาดเสบียงอาหาร แล้วยังใช้อุบายโดยการถอยกำลังออกในเวลากลางคืน พอรุ่งเช้าก็ให้ทหารเข้ามาผลัดเวรเพื่อให้เห็นว่ามีกำลังเพิ่มเติมอยู่เสมอ เมื่อทัพพม่าขาดแคลนเสบียงอาหาร ประจวบกับคิดว่ากองกำลังของฝ่ายไทยมีมากกว่า จึงไม่กล้าจะบุกเข้ามาโจมตี สมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาสุรสิงหนาท เมื่อสบโอกาสเห็นฝ่ายข้าศีกไม่เด็ดขาดในการทำศีก ก็ทำการตีกองทัพพม่าจนถอยร่น ด้านพระเจ้าผดุง เมื่อเห็นว่าไม่สามารถบุกโจมตีต่อได้ ประจวบกับกองทัพขาดเสบียงอาหารจึงถอยทัพกลับ
  ส่วนทัพที่บุกมาทางแม่ละเมามีกำลังมากกว่าจึงสามารถตีเมืองพิษณุโลกได้ แต่เมื่อเสร็จศึกทางด้านพระเจดีย์สามองค์แล้ว พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช จึงเสด็จไปช่วยหัวเมืองฝ่ายเหนือ ส่วนทางปักษ์ใต้ทัพพม่าได้โจมตีเมืองระนองไปจนถึงเมืองถลาง และเกือบจะตีหัวเมืองทางใต้ของสยามได้เต็มแก่ แต่สุดท้ายก็ต้องล่าถอยเพราะสองสตรีคุณหญิงจันและคุณมุก
  คุณจันเป็นบุตรีคนแรกของจอมร้างบ้านเคียน ทั้งนี้จอมร้างหมายถึงข้าราชการที่ทำคุณงามความดีไว้มากมาย ได้รับการยกย่องจากทุกสารทิศ แต่ไม่ได้รับยศถาบันดาศักดิ์ ซึ่งบิดาของคุณจันนั้นรับราชการในพื้นที่บ้านเคียน จึงมีชื่อบ้านเคียนต่อท้าย คุณจันมีพี่น้องร่วมบิดามารดาเดียวกันห้าคน ตัวคุณจันสมรสกับพระยาสุรินทราชาพิมลอัยา มีบุตรทั้งสิ้นสี่คน ตามหลักฐานระบุว่าคุณจันเป็นผู้ประกอบด้วยคุณงามความดี มีอัทยาศัยสุภาพอ่อนโยม และมีความกล้าหาญเด็ดเดี่ยว สมกับเป็นบุตรของจอมร้างบ้านเคียน จึงเป็นที่สนิทเสน่หาของพระบิดาและวงศ์ญาติทั้งหลาย เมื่อบิดามารดาแก่เฒ่า คุณจันก็ได้รับภาระปกครองผู้คนบ่าวไพร่และดูแลการภายในครอบครัวแทนบิดามารดาโดยสิทธิ์ขาด
  ด้านคุณมุก เป็นน้องของคุณจัน มีกริยาสุภาพอ่อนโยน ทั้งมีสติปัญญาความกล้าหาญเด็ดเดี่ยวไม่น้อยกว่าคุณจันผู้พี่ เมื่อจอมร้างบ้านเคียนถึงแก่กรรมลง พระถลางอาดบุตรชายและน้องชายท่านผู้หญิงจันได้ครองเมืองถลาง ครองได้ไม่นานก็ถูกผู้ร้ายยิงตาย หลังสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรีปราบก๊กพระยานครได้ประมาณ 7 ปี จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พระยาสุรินทราชาพิมลอัยา เป็นเจ้าเมืองถลาง ด้านคุณหญิงจันซึ่งเป็นภรรยาเป็นแม่เมืองปกครองเมืองถลางด้วยความสงบสุข
  ครั้นเมื่อเจ้าเมืองเสียชีวิต คุณหญิงจันก็ถูกทหารไทยจับด้วยความเข้าใจผิดบางประการ ในช่วงเวลานั้นก็เป็นเวลาเดียวกับส่งครามเก้าทัพเริ่มต้นขึ้น กองทัพพม่าสามพันนายได้ยกทัพบุกตีค่ายปากพระจนแตก มีเป้าหมายสุดท้ายที่เมืองถลาง ขุมคลังของสยาม ข่าวทัพเรือบุกโจมตี กอปรกับเจ้าเมืองถลางเสียชีวิตเป็นข่าวร้ายที่ทำร้ายจิตใจชาวเมืองถลางให้อยู่ในความหวาดกลัว ไม่มีที่พึ่งหมดหวัง เรื่องราวรู้ถึงหูของคุณหญิงจัน ท่านจึงหลบหนีจากการจับกุม เพื่อมากอบกู้บ้านเมืองร่วมกับคุณมุก จนทั้งสองกลายเป็นแรงยึดเหนี่ยวให้คนทั้งถลางมีกำลังใจลุกขึ้นมาสู้กับข้าศึก เริ่มแรกท่านได้นำกำลังจากบ้านสาคู บ้านในยาง บ้านดอน บ้านไม้ขาว บ้านแขนน บ้านลิพอน บ้านเหรียงมาเตรียมการรบ ณ ค่ายข้างวัดพระนางสร้าง
  ฝ่ายพม่ายกทัพเข้ามาเร่งก่อสร้างค่ายบริเวณทุ่งนา เพื่อเตรียมโจมตีเมืองถลาง ด้านผู้หญิงจัน คุณมุกและคณะกรมการเมืองวางแผนสู้ศึก ได้เตรียมปืนใหญ่ตรึงไว้ดึงเวลาได้หลายวันเป็นผลให้เสบียงอาหารของพม่าลดน้อยลง และวางแผนให้กลุ่มผู้หญิงแต่งตัวคล้ายทหารไทย เอาไม้ทองหลางเคลือบดีบุกมาถือแทนอาวุธ ทำทียกขบวนเข้าเมืองถลางในช่วงดึกลวงพม่าว่าเมืองถลางมีกำลังมาเสริมทุกคืน ทำให้พม่าคาดการณ์กองกำลังเมืองถลางผิดพลาด และไม่กล่าผลีผลามเข้าตี การศึกครั้งนี้กินเวลายาวนานถึง 1 เดือนเศษ กำลังพม่าทั้งอ่อนล้าและขาดเสบียงอาหาร เมื่อพม่าตั้งพลเข้าโจมตีถูกฝ่ายเมืองถลางระดมยิงปืนเล็กปืนใหญ่ กระทั่งวันหนึ่งชาวถลางได้ยิงปืนใหญแม่นางกลางเมืองถูกต้นทองหลางหน้าค่ายพม่าหักลง ครั้นเมื่อชาวเมืองถลางยิงปืนใหญ่แม่นางกลางเมืองถูกต้นทองหลางหน้าค่ายพม่าหักลง กองทัพพม่าระส่ำระสายเสียขวัญ และแตกทัพไปเมื่อวันจันทร์ เดือน 4 แรม 14 ค่ำ ปีมะเส็ง สัปตศก จุลศักราช 1147 ตรงกับวันที่ 13 มีนาคม พ.ศ. 2328 เป็นวันถลางชนะศึก
  เมื่อความทราบฝ่าละอองธุลีพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ทรงมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมบำเหน็จผู้ทำคุณแก่แผ่นดิน ให้ท่านผู้หญิงจันเป็น ท้าวเทพกระษัตรี คุณมุกน้องสาวเป็น ท้าวศรีสุนทร ดำรงยศอันมีศักดิ์แก่ฐานานุรูป
  อนุสาวรีย์ของทั้งสองท่านตั้งอยู่ที่วงเวียนสี่แยกท่าเรือ ตำบลศรีสุนทร อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต สร้างขึ่นในปี พ.ศ. 2509 จากหลักฐานสำคัญในจดหมายเหตุเมืองถลาง 6 ฉบับ เพื่อเป็นการเสริมและสนองพระราชดำริในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวในคราวเสด็จเปิดถนนสายถลาง ที่ได้พระราชทานนามว่า ถนนเทพกระษัตรี และได้มีการตั้งชื่อตำบลในภูเก็ต 2 ตำบลตามท้าวเทพกระษัตรี ท้าวศรีสุนทร คือตำบลเทพกษัตรีย์ และตำบลศรีสุนทรโดยจะมีการจัดงานรำลึกถึงท่านทุกปี

คำจารึก ที่อนุสาวรีย์ฯ โดย กรมพระนราธิปประพันธ์พงศ์
"เมืองถลาง ปางพม่าล้อม ลุยรัณ
รอดเพราะคุณหญิงจัน รับสู้
ผัวพญาผิวอาสัญ เสียก่อน ก็ดี
เหลือแต่หญิงยังกู้ เกียรติไว้ชัยเฉลิม
เริ่มรบรุกตลบต้าน โจมตี
ทั้งสกัดตัดเสบียงที ดักด้าว
พม่าอดหมดพลังหนี จากเกาะ กเจิงแฮ
กลศึกแพ้แม่ท้าว ไม่ท้อโถมหนอ"

ข้อความที่แท่นฐานทิศเหนือ ด้านหน้าอนุสาวรีย์
"ท้าวเทพกระษัตรี ท้าวศรีสุนทร
ได้กระทำการป้องกันรักษาเมืองถลางไว้เป็นสามารถ
เมื่อปีมะเส็ง พ.ศ. 2328
มิให้ข้าศึกตีหักเอาเมืองได้
เป็นวีรกรรมอันควรแก่ชนชาวเมืองถลาง
ตลอดจนชาวไทยทั่วกันยกย่องสรรเสริญ
จึงสร้างอนุสาวรีย์ให้ไว้เป็นอนุสรณ์
เมื่อ พ.ศ. 2509"

29 มกราคม 2555

shrine in Phuket สัญญาหน้าอ๊าม

ชาวภูเก็ตนิยมเรียกศาลเจ้าว่า "อ๊าม" ศาลเจ้าหรืออ๊ามในจังหวัดภูเก็ต นับเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวไทยเชื้อสายจีน เป็นศาสนสถานที่สำคัญ ที่ใช้ในการประกอบพิธีต่าง ๆ โดยเฉพาะช่วงเทศกาลกินเจ ซึ่งเป็นประเพณีที่สืบทอดกันมายาวนาน นอกจากนี้ศาลเจ้ายังเป็นที่พึ่งพิงทางจิตใจสำหรับผู้ที่เลื่อมใส เพลง "สัญญาหน้าอ๊าม" จากอัลบั้มเพลงภูเก็ต ถ่ายทอดเรื่องราวเกี่ยวกับศาลเจ้าต่างๆในจังหวัดภูเก็ต และบรรยากาศของเทศกาลกินเจ ผ่านบทเพลงที่เกี่ยวกับความรัก ลองฟังกันครับ




เทศกาลกินเจ ชาวภูเก็ตนิยมเรียกกันว่า "เจียะฉ่าย" หรือ "ประเพณีถือศีลกินผัก" ทำให้อ๊ามต่างๆในจังหวัดภูเก็ตคึกคักด้วยผู้คนที่มาร่วมพิธี ทางศาลเจ้าต่างๆ จะมีการจัดงานเทศกาลอย่างยิ่งใหญ่ มีการแห่พระไปตามสถานที่ต่างๆในจังหวัด รายละเอียดอ๊ามสำคัญๆในจังหวัดภูเก็ตมีดังนี้
 - อ๊ามกระทู้ หรือ ศาลเจ้ากระทู้ นับได้ว่าศาลเจ้าแห่งนี้ เป็นจุดเริ่มต้นของประเพณีถือศีลกินผักของชาวภูเก็ต ที่สืบต่อมากระทั่งปัจจุบัน ศาลเจ้าแห่งนี้ตั้งอยู่ในชุมชนบ้านกะทู้ อำเภอเมืองกะทู้
 - อ๊ามปุดจ้อ หรือ ศาลเจ้าปุดจ้อ ศาลเจ้าปุดจ้อแห่งนี้เป็นที่ประดิษฐานองค์พระโพธิสัตว์กวนอิม หรือ องค์กวนอิมปุดจ้อ อันเป็นองค์สำคัญในพระพุทธศาสนานิกายมหายาน เป็นศาลเจ้าเก่าแก่ที่สร้างมาเกินกว่า 100 ปี ตั้งอยู่บนถนนระนอง
 - อ๊ามบางเหนียวต้าวโบ้ก้อง หรือ ศาลเจ้าบางเหนียว ต้าวโบ้ หมายถึง ดาวเหนือ ก้อง หมายถึง พระราชวัง หมายถึง พระราชวังดาวเหนือ ตั้งอยู่บนถนนภูเก็ต ติดกับสี่แยกบางเหนียว
 - อ๊ามจ้อซูก้ง หรือ ศาลเจ้าฮกหงวนก้ง ซึ่งศาลเจ้าจะถูกสร้างแบบจีนฮกเกี๊ยน ตั้งอยู่ใกล้กับหอนาฬิกา วงเวียนสุรินทร์
 - อ๊ามจุ๊ยตุ่ย หรือ ศาลเจ้าจุ๊ยตุ่ย เป็นศาลเจ้าขนาดใหญ่ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดแห่งหนึ่งในจังหวัด ตั้งอยู่กลางเมือง บนนถนนระนอง ในซอยภูธรติดกับศาลเจ้าปุดจ้อ
 - อ๊ามแสงธรรม หรือ ศาลเจ้าแสงธรรม ในภาษาจีนฮกเกี้ยนเรียกว่าศาลเจ้าเต่งก้องต๋อง หรือศาลเจ้าชิงเจียกอง มีอายุเก่าแก่นับร้อยปี ความสวยงามของสถาปัตยกรรมของอาคารเป็นรูปแบบเก๋งจีน ตั้งอยู่ในซอยเล็กๆ บนถนนพังงา
 - อ๊ามเทียนเก้ง หรือ ศาลเจ้าเทียนเก้ง เป็นสถานที่ที่มีรูปประทับของเทพเจ้ากิ้วเทียนเฮียนลื้อ เป็นศาลเจ้าในตัวเมืองภูเก็ต ตั้งอยู่ปลายแหลมสะพานหิน
 - อ๊ามสามกอง หรือ ศาลเจ้าสามกอง หรือศาลเจ้าหลิมฮู้ไท้ซู่ หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่า อ๊ามไท้ซู่ก้อง
 - อ๊ามท่าเรือ หรือศาลเจ้าท่าเรือ มีองค์พระโป้เส่ง ไต่เต่ (หงอ จินหยิน) เป็นพระประธาน ท่านเป็นเทพเจ้าที่มีความสามารถในวิชาแพทย์แผนโบราณ ที่เลื่องลือในการรักษาโรค ภัยไข้เจ็บ เป็นศาลเจ้าขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ริม ถนนเทพกษัตรีย์ อ.ถลาง

สัญญาหน้าอ๊าม
นักร้อง โกไข่
คำร้อง/ทำนอง จุมพล ทองตัน
เรียบเรียง จุมพล ทองตัน

เห็นเสาโกเต๊งปักอยู่หน้าอ๊าม
หวนให้คิดถึง คนงามที่สัญญากัน
พบเธอที่อ๊ามจุ๊ยตุ่ย เราเที่ยวพูดคุยผูกพัน
สัญญารักมั่น ที่อ๊ามสามกอง

ถึงเทศกาลกินผักอีกปี
จำได้ปีนี้ สัญญาให้ใจพี่จอง
บางเหนียวหล่อโรง ถามไถ่
อ๊ามท่าเรือไปเฝ้ามอง
แต่ไม่เห็นน้องแม้อ๊ามกระทู้

วอน กิ๋วอ๋องไต่เต่ ช่วยกัน
สร้างปาฏิหารย์ ให้เราพบกันอีกปี
เธออยู่ที่ไหน ส่งใจบอกกันบ้างซี
โอ้ไยคนดี ให้พี่รอเธอข้างเดียว

เห็นเสาโกเต๊งปักอยู่หน้าอ๊าม
แหงนมองยอดเสา ยังตามด้วยเกียงน้ำมัน
หรือเธอไปมีใครใหม่ เจี๊ยะฉ่ายกับใครคนนั้น
เธอจึงลืมฉัน สัญญาหน้าอ๊าม

26 มกราคม 2555

Night in the Beach - Phuket ภูเก็ตราตรี

เพลงภูเก็ตราตรี บรรยายถึงความงามตามธรรมชาติของชายหาดในยามค่ำคืนบนเกาะภูเก็ต ซึ่งจะได้บรรยากาศความเป็นธรรมชาติในอีกรูปแบบ ยามค่ำคืนที่มีแสงจันทร์ สายลม เสียงคลื่นซัดสาด แสงดาวประกายทั่วท้องฟ้า เป็นบรรยากาศที่สุดแสนโรแมนติก ในส่วนของเพลงภูเก็ตราตรี จากอัลบั้มเพลงภูเก็ตนั้น จะมีความไพเราะแค่ไหนลองฟังกันครับ



เป็นยังไงบ้างครับหลังจากได้ฟังเพลงภูเก็ตราตรีกันแล้วรู้สึกอยากจะมาเที่ยวภูเก็ตมั้ยครับ สำหรับนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวภูเก็ต ลองเปลี่ยนบรรยากาศในการชมความงามของหาดจากกลางวัน มาเป็นตอนกลางคืนกันบ้าง ก็จะได้อรรถรสของความสวยงามตามธรรมชาติอีกแบบ สำหรับผู้ที่เป็นคู่รักกันหากได้ลองเที่ยวในบรรยากาศที่โรแมนติค ในยามค่ำคืนแบบนี้ คงส่งผลดีไม่มากก็น้อย สำหรับเพลงภูเก็ตราตรีนั้น ขับร้องโดย คุณสุภางค์พรรณ ขอศานติวิชัย ผู้ชมผู้ฟังสามารถดูเนื้อเพลงได้ด้านล่างครับ

ภูเก็ตราตรี

นักร้อง สุภางค์พรรณ ขอศานติวิชัย
คำร้อง/ทำนอง ไม่สามารถหาข้อมูลผู้ประพนธ์เพลงได้
เรียบเรียง จุมพล ทองตัน

ริมหาดสุรินทร์เมื่อสิ้นทิวา
ยามเมื่อแสงจันทรา ต้องธารานั้นงามเฉิดฉาย
สายลมซัดคลื่น พริ้วมากระทบหาดทราย
มองเห็นเป็นประกาย ดังหนึ่งพรรณรายสดใสงามตา

ริมหาดราไวย์ เมื่อยามค่ำคืน
แว่วยินเสียงลมคลื่น ซ่าซัดครืนระรื่นอุรา
เมื่อแสงนวลจันทร์ ลับไปจากท้องนภา
มองเห็นดวงดารา พริบตายั่วเย้า ให้ฝัน

ภูเก็ตราตรี ถิ่นนี้คอยเตือน
ยามเมื่อเรามาเยือน มิได้ลืมเลือน ห่างกัน
แม้จากดินแดน ถิ่นแคว้นนานวัน ยังฝังใจจำมั่น
คืนแห่งความฝัน คืนนั้นยังเตือน

มองหาดสุรินทร์ถวิลถึงเธอ ยังเฝ้าฝันละเมอ
คิดถึงเธอพร่ำเพ้อไม่เลือน
นึกถึงครั้งได หัวใจวาบหวิวสะเทือน
คืนนั้นฉันมีเพื่อน คืนนี้มาเยือนเดียวดาย

25 มกราคม 2555

Phuket Beach สุดสวาทหาดภูเก็ต

สุดสวาทหาดภูเก็ต เพลงที่กล่าวถึงหาดต่างๆบนเกาะภูเก็ต ซึ่งเป็นเพลงหนึ่งในอัลบั้มเพลงชุด “ภูเก็ตเมืองงาม” ซึ่งเป็นอัลบั้มเพลงแนะนำการท่องเที่ยวภูเก็ต ขับร้องโดยนัดดา วิยะกาญจน์ เนื้อเพลงประกอบด้วยหาดดังนี้ หาดทรายแก้ว, หาดไม้ขาว, หาดในยาง, หาดในทอน, หาดบางเทา, หาดสุรินทร์, หาดกมลา, หาดป่าตอง, หาดกระรน, หาดกะตะ, หาดในหาน, หาดราไวย์, หาดแหลมกา จะพบว่าเกาะภูเก็ตมีทรายหาดมากมาย ให้นักท่องเที่ยวได้เยี่ยมชมพักผ่อน อีกทั้งความหลากหลายทางธรรมชาติที่แตกต่างกัน ทำให้ความสวยงามตามธรรมชาติที่แตกต่างกัน จึงไม่เป็นที่น่าแปลกใจเลยที่เกาะแห่งนี้ได้ขึ้นชื่อว่า "เมืองแห่งใข่มุกอันดามัน"



เป็นยังไงกันบ้างครับ หลังจากได้ฟังเพลงกันแล้วรู้สึกอยากมาเที่ยวที่ภูเก็ตมั้ยครับ ที่นี่นอกจากจะมีความงามของหาดทรายแล้วยังมีอาหารพื้นเมืองอร่อยๆ ที่ชึ้นชื่ออีกมากมายให้นักท่องเที่ยวที่มาได้ลองลิ้มรสกัน นอกจากความงามด้านธรรมชาติแล้วที่นี่ยังเป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ไทย เป็นที่รู้จักในนามสองวีรสตรี ท้าวเทพกษัตริย์ตรีท้าวศรีสุนทรเป็นอนุสาวรีย์ให้ชาวภูเก็ตและนักท่องเที่ยวได้เยี่ยมชมสักการะกัน นอกจากนี้ทุกๆยังมีการจัดประเพณีกินเจหรือถือศีลกินผักที่ยิ่งใหญ่ ซี่งเป็นประพณีที่สืบทอดกันมาเป็นเวลานับ 100 ปี กลับมากล่าวถึงเพลง "สุดสวาทหาดภูเก็ต" มีรายละเอียด นักร้อง ผู้แต่งคำร้อง/ทำนอง เรียบเรียง และเนื้อเพลงดังนี้

สุดสวาทหาดภูเก็ต

นักร้อง นัดดา วิยะกาญจน์
คำร้อง/ทำนอง แฉล้ม โกยทา
เรียบเรียง จุมพล ทองตัน

สุดสวาท หาดสวรรค์ อันวิเศษ
เกาะภูเก็ต มุกอันดามัน สร้างฝันวิไล
สายลมแสงแดด สดใส พรมจูบลูบไล้
หาดทรายแก้ว พริ้งพราย หาดไม้ขาว พราวตา

หาดในยาง หาดในทอน ร้อนเสน่ห์
เลียบทะเล ที่ทางบางเทา เสลาโสภา
งามหาดสุรินทร์ พร่างพื้น คลื่นสาดเชิงผา
ที่หาด กมลา ตื่นตาซึ้งใจ มโหฬาร
อลังการ ด้วยแฟนตาซี ที่เฉิดไฉไล

หาดป่าตอง งามระบือ ลือทั่วโลก
สร่างคลายโศก เมื่อมาได้ยล สุขล้นฤทัย
งามหาดกระรน คู่กัน กะตะ อำไพ
ดุจดั่งเทพนิยาย หาดในหาน ลานตา
หาดราไวย์ ทรายแซมหิน แลสะพรั่ง
ปะการัง ที่ทอดแนวไป ใกล้หาดแหลมกา

ถึงหาดแสนสุข สุขแสน ภูเก็ต แดนฟ้า
ระรื่น ชื่นอุรา เมื่อมาพิสูจน์ แสนพิลาส
สุดสวาท โอ้หาดภูเก็ต เด็ดใจไว้เคียง

22 มกราคม 2555

Phuket foods ของกินภูเก็ต (หรอยๆ)

อาหารพื้นเมืองภูเก็ต มีมากมายหลากหลาย อีกทั้งอาหารของที่นี่ฟังชื่อแล้วอยากเห็นหน้าตาและอยากชิม วันนี้จะมาแนะนำอาหารพื้นเมืองของภูเก็ตผ่านบทเพลงที่ชื่อว่า "ของกินภูเก็ต(หรอยๆ)" เป็นเพลงหนึ่งในอัลบั้มเพลงชุด “ภูเก็ตเมืองงาม” ซึ่งเป็นอัลบั้มเพลงแนะนำการท่องเที่ยวภูเก็ต ขับร้องโดย เอกชัย ศรีวิชัย ในบทเพลงจะกล่าวถึงอาหารพื้นเมืองของภูเก็ต ซึ่งมีชื่อเรียกที่ไม่คุ้นเคยสำหรับคนต่างถิ่น และขอแนะนำผู้ที่จะมาเที่ยวที่เกาะภูเก็ตให้หาข้อมูล และสถานที่ขายอาหารพื้นเมืองของที่นี่ จะได้ไม่เสียเที่ยวที่ได้มาภูเก็ต ลองฟังเพลงกันครับ หากสนใจเมนูไหนก็เตรียมหาสถานที่กินไว้ล่วงหน้านะครับ



 - เจี่ยโก้ย หรือ อิ่วเจี่ยโก้ย นิยมเรียกสั้น ๆ ว่า เจี่ยโก้ย ตามแบบภาษาฮกเกี้ยน ก็คือปาท่องโก๋
 - ผักเกล็ด หรือ ผักเหนาะ หมายถึง ผักสด ผักลวกกะทิ หรือผักดอง รับประทานควบคู่กับ อาหารเผ็ด
 - น้ำพริกกุ้งเสียบ น้ำพริกชื่อดังจากจังหวัดภูเก็ต รัปประทานกับข้าวและผักสดหรือผักลวก
 - โอ้เอ๋ว หรือ โอ๊ะเอ๋วเป็นอาหารท้องถิ่นของจังหวัดภูเก็ต ได้จากวุ้นของเมล็ดโอ้เอ๋ว
 - โกสุ้ย หรือโก่ซุ้ย เป็นขนมถ้วย ทำจากน้ำตาลแดง ตัวขนมมีสีน้ำตาล รสหวาน ลักษณะเหนียวหนึบหนับ กินกับมะพร้าวขูด
 - ขนมอังกู้ ขนมอังกู๊ หรือ อังกู๊โก๊ย หรือ ขนมเต่าเป็นขนมของคนเชื้อสายจีน มีไส้ประกอบด้วยถั่วทอง น้ำตาล นิยมนำมาเป็นเครื่องบวงสรวงในพิธีต่าง ๆ หรือในงานรับขวัญเด็กเกิดใหม่
 - ขนมอาโปง หรืออาโป้ง หรืออาโป๊ง เป็นขนมพื้นเมืองที่ชาวภูเก็ตนิยมทานกับน้ำชายามเช้า มีรสชาติหวานมันเวลาทานแล้วมีกลิ่นหอมกะทิ
 - ฮวดโก้ย หรือขนมถ้วยฟู เป็นขนมที่ชื่อมีความหมายดี คือ หมายถึงการเจริญรุ่งเรือง เฟื่องฟู
 - โกปี้เป็นชื่อเรียกกาแฟของคนภูเก็ต
 - หมี่ฮกเกี้ยน อาหาร ขึ้นชื่อของเมืองภูเก็ต เส้นจะใหญ่หนาและเหนียวนุ่ม เอามาผัดใส่ผักเยอะๆ ใส่อาหารทะเลลงไปด้วย ถึงจะอร่อย
 - หมีซั่ว เมนูอาหารอร่อยมีส่วนประกอบคือ หมู กับเส้นหมี่ซั่ว จากนั้นนำมาผัด คลุกเคล้าให้เข้ากัน
 - หมี่เช็ค หรือหมี่ฮกเกี้ยนแบบน้ำ น้ำซุปมีรสชาติหวานอร่อย นิยมรับประทานเป็นอาหารกลางวัน
 - หมี่หุ้นป้าช้าง หรือ หมี่หุ้นป้าฉ่าง เป็นหมี่ผัดแห้ง รับประทานกับน้ำซุปกระดูกหมู
 - แกงตูมี เป็นอาหารพื้นบ้านภาคใต้ที่นิยมรับประทาน กันในละแวกจังหวัดภูเก็ต มีลักษณะ คล้ายแกงส้ม
 - เปาล้างคือข้าวเหนียวปิ้งไส้มะพร้าว ผสมกับกุ้ง พริกไทยและหัวเปราะ
 - เกียมโก้ย เป็นขนมว่าง ตัวเนื้อขนมสีขาวๆ จะนิ่มๆ เป็นขนมทำจากแป้งข้าวเจ้า โรยหน้าด้วยหอมเจียว ต้นหอม และกุ้งแห้งทอด กินกับน้ำจิ้มรสชาติเปรี้ยว
 - โลบะ คือ หัวหมูและเครื่องในหมูต้มพะโล้ แล้วนำไปทอดอีกที เป็นอาหารว่างพื้นเมืองยามบ่าย
 - โอต้าว เป็นอาหารว่าง มีลักษณะคล้ายหอยทอด แต่ไม่ใส่ถั่วงอก และเนื้อแป้งนุ่ม ไม่กรอบ
 - ฮูแช้ สลัดผักภูเก็ต นิยมทานเป็นอาหารว่างยามบ่าย ประกอบไปด้วย ผักกาดหอม ไข่ต้ม มะเขือเทศ เต้าหู้เหลืองทอด แตงกวา มันแกว แครอท หมี่กรอบ เวลาจะกินนั้นจะมีน้ำจิ้มราดก่อน แล้วคลุกรวมกัน

ของกินภูเก็ต(หรอยๆ)
นักร้อง เอกชัย ศรีวิชัย
คำร้อง/ทำนอง จำเริญ ทองตัน
เรียบเรียง จุมพล ทองตัน

หรอย หรอย ของหรอย
ของกินภูเก็ต หรอย หรอย
ของกิน ของกิน ภูเก็ต
แหลงไม่เหม็ด หรอย หรอยทั้งเพ
มาเที่ยวภูเก็ต ฮาเอ
เสร็จจากเที่ยวเล มาหาของกินกัน

เช้า เช้า กินหนมจีนน้ำยา
ราดแกงพุงปลา กินกับเจี๊ยะโก้ย
กับลูกชิ้น ใข่ต้ม ห่อหมก
แค่อื่นว่าหลก กินกันได้พรือโว้ย
ตักผักเกล็ด ไม่ต้องรีบโกย
ให้พอเหลือหิดหุ้ย ได้เกล็ดน้ำพริกกุ้งเสียบ เหลา แอ๊ะ

โอเอ๋ว เขาใส่ถัวแดง
ขูด ขูดน้ำแข็ง ราดน้ำเชื่อมหวานหวาน
โกซุ๊ย กับโกยต้าล้าม
กันโต้งสักชาม อั่งกูสักหนวย
กินต่าวซ้อ อาโป้ง ฮวดโก้ย
เห็นน้องตาโรยโรย เดี๋ยวพาไปกิน โกปี้ เอาฮึ

เที่ยงเที่ยง ไปกินหมี่ฮกเกี้ยน
ถ้าไม่ให้เลี่ยน ต้องกินกับหัวหอม
สั่งหมี่ซั่ว หมี่น้ำ หมี่เช็ก
ผัดกุ้งกับกะเปก หมี่หุ้นปาช้าง
แกงตูมี้ คั่วปลาฉิงฉ้าง
แล้วตามด้วย เปาล้าง
ฮือ หวางอกไปเสียนี่ ฮาย

หวันฉ่ายพาไปกินเกียมโก้ย
เอาเจี้ยนผ้างโรย กับกุ้งแห้งต้นหอม
โลบะ กับเกี้ยนสักจาน
ห่อไปกินแค่บ้าน โอต้าวสักสอง
สั่งโปเปี๊ย ฮูแช้ให้น้อง
แล้วนั่งซดเซล่อง บายใจ บายใจ

เชิญชวนพี่และน้อง มาเที่ยวมากินกัน
ภูเก็ตเกาะสวรรค์ เรายินดีต้อนรับ